รวมบทความที่น่าสนใจ
รอยแตกร้าวแบบใด ซ่อมได้ ไม่น่าเป็นห่วง?
รอยแตกร้าว ถือเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของบ้านไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังต้องมานั่งลุ้นว่าบ้านจะทรุดตัว เอียง หรือ ถล่มลงมาไหม เนื่องจากรอยแตกร้าวบางประเภท ก็สร้างปัญหาใหญ่ให้บ้าน แต่บางประเภทก็เป็นเพียงสัญญาณบอกเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ถึงกับสร้างปัญหาต่อโครงสร้างบ้านแต่อย่างใด โดยรอยร้าวชนิดต่างๆที่เกิดขึ้นภายในบ้าน หรือ อาคาร จะมีอยู่หลายประเภท ซึ่งปัญหารอยเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่อาจเกิดจาก ผนังโครงสร้าง การเลือกใช้วัสดุ และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงการก่อสร้างจากช่างที่ไม่มีฝีมือ รอยแตกร้าวเกิดขึ้นภายในบ้านเรือน หรือ อาคาร เป็นเรื่องปกติที่มักพบเห็น ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหม่ หลังเก่า ก็ต้องพบรอยร้าวเป็นเรื่องธรรมดา แต่! รอยร้าวประเภทไหนที่ไม่ส่งผลต่อโครงสร้างบ้าน และไม่สร้างความอันตราย ดังนี้ รอยแตกร้าวบนผนังบ้าน รอยร้าวเฉียงที่ผนังมุมด้านซ้ายไปมุมขวา รอยแตกร้าวชนิดนี้ แสดงว่าโครงสร้างมีการบิดตัว โดยเกิดจากเสาของบ้านที่มีการทรุดตัวแตกต่างกัน และคานที่รัดเสามีการพยุงเสาเอาไว้ให้อยู่ระนาบเดียวกันไม่ได้ ทำให้เกิดการทรุดตัว และเป็นรอยร้าวจากผนังมุมล่างซ้ายไปมุมบนขวา รอยแตกร้าวชนิดนี้ไม่อันตรายมากนัก หากรอยแตกร้าวมีเพียงขนาดเท่าเดิม และไม่มีการขยายตัว แต่ในกรณีที่รอยแตกร้าวมีการขยายตัว และเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงขั้นอันตรายควรปรึกษาสถาปนิก ทำการซ่อมแซมโดยด่วน รอยร้าวแตกลายงาตามผนังก่ออิฐฉาบปูน รอยแตกร้าวรายงานประเภทนี้ ต้นเหตุมาจากการแตกลายงาบนผนังที่ปูนฉาบแห้งเร็วเกินไป และมีการฉาบที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ การใช้ปูนที่มีการบ่มไม่ดีมาฉาบ อาจทำให้เกิดรอยร้าว แตกลายงาตามผนังได้ รอยร้าวชนิดนี้ไม่ส่งผลต่อโครงสร้างเพียงแต่ต้องฉาบปิดรอยร้าว เพื่อความสวยงาม รอยร้าวบริเวณรอยต่อผนังกับโครงสร้างเสา และคาน รอยร้าวชนิดนี้ มักเกิดจากรอยต่อมุมของผนังห้อง เกิดจากการก่อสร้างผนัง หรือ เสา ที่ไม่ได้เสียบเหล็กหนวดกุ้งเกาะยึดกับโครงสร้างเสา ถ้าหากมีการเสียบก็อาจจะไม่แน่นพอ ทำให้เกิดรอยร้าวระหว่างรอยต่อของเสาได้ลักษณะรอยร้าวชนิดนี้ไม่ส่งผลต่อความแข็งแรงโครงสร้าง แต่หากต้องการซ่อมแซม ก็สามารถทำได้เพื่อความสวยงามของบ้าน รอยแตกร้าวที่พื้นโรงจอดรถ รอยแตกร้าวพื้นโรงจอดรถ สามารถพบเห็นได้บ่อย ซึ่งอาจจะเกิดการกดทับ…
ปัญหาที่ต้องระวังของโครงสร้างบ้าน ก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่
โครงสร้างบ้าน คือจุดที่สำคัญที่จะประกอบขึ้นมาเป็นตัวบ้านได้ เป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักของตัวบ้านเอาไว้ทั้งหมด หากมีส่วนใดที่ชำรุด เสียหายขึ้นมา อาจเกิดความเสียหายขึ้นกับบ้านทั้งหลังได้ เช่น บ้านทรุด บ้านเอียง บ้านยุบตัว หรือถึงขั้นถล่มลงมาทั้งหลังเลย ซึ่งความเสียหายนี้อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง หรือว่าเสียหายตอนที่อยู่อาศัยแล้วก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงต้องตรวจเช็ค สังเกตถึงความผิดปกติของโครงสร้างเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ 1. เสาเข็ม ถือเป็นส่วนแรกสุดของการสร้างบ้านเลย ถ้าสร้างไม่ดีเริ่มจากจุดนี้ก็พลอยทำให้ทุกส่วนมีปัญหาได้เช่นกัน โดยหลักแล้วเสาเข็มจะรับน้ำหนักของตัวอาคารลงสู่ดิน ดังนั้นเสาเข็มต้องแข็งแรงตอกลงดินไปลึกพอให้รับน้ำหนักของอาคารและหลังคาได้ ไม่ชำรุดหรือมีความเอนเอียง เสาเข็มที่ใช้กับการสร้างบ้านจะมีสองแบบคือ เสาเข็มคอนกรีตระบบตอก มักใช้กับโครงสร้างบ้าน หรืออาคารทั่วไป การเลือกความยาวของเข็มที่ตอกขึ้นอยู่กับลักษณะของหน้าดินว่าเป็นแบบไหนมีความแข็งสักเท่าไหร่ บ้านในเขตกรุงเทพจำเป็นต้องมีการตอกเสาเข็มและมักใช้ความยาวอยู่ที่ 20 เมตร ส่วนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเข็มขึ้นอยู่กับการคำนวณของวิศวกร เสาเข็มเจาะ การทำเสาแบบนี้จะมีการเจาะดินลงไปก่อน เส้นผ่านศูนย์กลางของเข็มขึ้นอยู่กับการคำนวณของวิศวกร แล้วจึงเทคอนกรีตลงในรูที่เจาะเอาไว้ มักใช้กับบริเวณที่ไม่สามารถขนส่งเสาไปในที่ก่อสร้างได้ หรือไม่สามารถทำการตอกเสาเข็มได้ เพราะแรงสั่นสะเทือนอาจสร้างความเสียหายให้กับอาคารข้างเคียงได้ การทำเสาเข็มแบบเจาะจึงมีราคาสูงกว่าแบบตอกประมาณ 3 เท่า 2. พื้น …
พิธีการตั้งเสาเอก
พิธีการตั้งเสาเอก เวลาเริ่มการก่อสร้างสำหรับบ้าน หรืออาคาร บางหลัง พิธีการต่างๆตามความเชื่อ มีความสำคัญมากเลยทีเดียว มีหลายแบบ หลายพิธีมากมีทั้ง พิธีลงเข็ม(เข็มเอก), วางศิลาฤกษ์, ตั้งเสาเอก, ไหว้บอกกล่าวเจ้าที่, ไหว้เทวดา, ไหว้ครูแม่บันได(อันนี้เคยเห็น ช่างจากบุรีรัมย์ ขอให้เจ้ของบ้านทำพิธีเพื่อที่จะทำบันไดได้อย่างราบรื่น และเหมือนกับเป็นการบอกกล่าวแม่บันได ตามความเชื่อของเขา), ฯลฯ ส่วนพิธีการก็มีหลายแบบหลายวิธี มากทั้ง โยนเหรีญ ทอดแห ตั้งประลำพิธีบ้าง ตั้งโต๊ะไหว้เฉยๆบ้าง เคยครั้งนึงเจ้าของบ้านไป เชิญ พราหมหลวง คนที่ทำพิธีแรกนาขวัญ กับโล้ชิงช้า มาทำพิธีตั้งเสาเอกให้บ้านของเขา ขอบอกว่าอลังการมาก มีทั้ง บัณเฑาะห์ สังห์มาเป่า แต่ค่าใช้จ่ายของท่านพราหมไม่ได้แพงอะไรเลยครับ ใครสนใจก็ลองติดต่อดูที่ โบสถ์พราหม ข้างๆเสาชิงช้าดูครับ ที่นั่นเขาให้คำแนะนำได้ดีมากส่วนที่เก็บมาฝากวันนี้จะมี…
รู้ความลึกของการตอกเสาเข็มไมโครไพล์ (micropile) หมดปัญหาบ้านทรุดที่เป็นกังวล
ในการติดตั้งเสาเข็มไมโครไพล์นั้นจะเป็นการตอกด้วยเครื่องตอกเสาเข็มขนาดเล็กที่ช่วยลดเสียงรบกวน รวมถึงไม่ทำให้สั่นสะเทือนรบกวนเพื่อนบ้าน หรือผู้อยู่ใกล้ แน่นอนว่าการที่ตอกด้วยความลึกอันเหมาะสมจะทำให้เกิดความแข็งแรง หมดปัญหาเสาร้าว หรือรุนแรงถึงขั้นบ้านทรุดในที่สุดได้ ทว่าความลึกของเสาควรอยู่ที่เท่าไหร่? การศึกษาอย่างเข้าใจจะช่วยให้เลือกใช้ได้ตอบโจทย์การใช้งาน เสาเข็มไมโครไพล์ควรตอกด้วยความลึกเท่าไหร่? การที่ทำให้เสาเข็มไมโครไพล์รับน้ำหนักได้นั้นควรต้องมีการตอกด้วยความลึกที่ 21 เมตรโดยประมาณกับชั้นดินที่แข็งแรง ซึ่งปกติแล้วจะสามารถตอกได้ลึกตั้งแต่ 20 – 30 เมตรถือว่าค่อนข้างลึกมาก และรับน้ำหนักได้สูงสุดมากกว่า 50 ตันขึ้นอยู่กับขนาดหน้าตัดและประเภทของเสาเข็ม เป็นการกระจายแรงต้าน 2 แบบ คือ แรงเสียดทานที่ผิวของเสาเข็ม และแรงต้านที่ปลายเสาเข็ม ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบ้านทรุดได้เป็นอย่างดีในอนาคต ทั้งนี้ การที่จะต่อเติมบ้านได้ควรต้องเรียกวิศวกรมาช่วยเหลือ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างเดิมที่มีอยู่ รวมถึงรากฐานใหม่ที่จะสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหนในการเพิ่มเติมที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจจะต้องเพิ่มจำนวนเสาเข็มเนื่องจากส่วนที่มีการต่อเติมเราต้องการน้ำหนักมากจนโรงสร้างที่มีใช้งานไม่ได้ เป็นการเพิ่มรากฐานเผื่อว่าเสาเข็มรับน้ำหนักไม่ไหวก็จะได้กระจายแรงไปอีกได้ เพราะไม่อย่างนั้นปัญหาที่บ้านทรุด ร้าว หรือเสียหายมีโอกาสเกิดขึ้น ทำให้ต้องรื้อทุบใหม่ การรับน้ำหนักของเสาเข็มนี้เป็นอย่างไร? อย่างที่เราได้บอกไปว่าการรับน้ำหนักของเสาเข็มไมโครไพล์จะกระจายออกเป็น 2…
ความหมาย และประเภทการใช้งานของเสาเข็มไมโครไพล์
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจอยากเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์เพื่อการต่อเติม หรือสร้างบ้านเพราะด้วยคำแนะนำต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รู้จักดีมากพอ แล้วอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม แน่นอนว่าการศึกษาความหมาย และประเภทของการใช้งานที่มีให้เราเลือกหลากหลายจึงเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างดีที่สุด เพื่อการพิจารณาเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมตอบโจทย์ ความหมายของเสาเข็มไมโครไพล์ เสาเข็มไมโครไพล์ คือเสาเข็มที่มีนวัตกรรมทางวิศวกรรมมาช่วยให้การสร้างความแข็งแรงให้กับรากฐานของบ้าน เป็นการป้องกันบ้านทรุด การผลิตจะใช้วิธีหล่อด้วยแรงเหวี่ยงทำให้เนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นสูงกว่าการหล่อธรรมดา โดยที่จะมีการใช้ปั้นจั่นแบบพิเศษตอกลงไปกับพื้นดิน โดยสามารถใช้งานเสาเข็มประเภทนี้กับทุกสภาพผิวดินไม่มีปัญหา สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 10 – 55 ตัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทของเสาเข็ม สามารถตอกชิดผนัง หรือกระจกได้เลย พื้นที่แคบก็สามารถเข้าไปได้ด้วย เสียงเบามากแรงสั่นสะเทือนแทบไม่มีจึงไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องขนดินไปทิ้งให้วุ่นวาย เพราะตอนที่ตอกดินกระจายออกมาน้อยมาก 3 ประเภทของเสาเข็มไมโครไพล์ที่ควรรู้จัก เสาเข็มสปันไมโครไพล์ (spun micropile) 1. Spun micropile หรือเสาเข็มเสริมเหล็กแรงเหวี่ยง เป็นเสาเข็มที่จะมีรูปทรงแบบกระบอกตรงกลาง ขนาดความยาวที่ท่อนละ 1.5…